ในสมัยก่อนที่ยังไม่มีส้วมซึม ชาวบ้านจะถ่ายอุจจาระลงในถัง พอถึงตอนเช้ามืดประมาณตี ๔ ตี ๕ ทางเทศบาลจะส่งเจ้าหน้าที่ไปรับอุจจาระมาเทรวมใส่ถังใหญ่ของเทศบาล ซึ่งตั้งอยู่บนเกวียนเทียมด้วยวัว เมื่อครบทุกหลังคาเรือนแล้ว ก็จะขับเกวียนออกไปนอกเมือง
เจ้าหน้าที่เทศบาลส่วนหนึ่ง จะไปขุดหลุมในป่าข้างวัดแห่งหนึ่งไว้รอ แล้วก็เอาอุจจาระไปเทที่หลุมนั้น หลังจากนั้นก็เกลี่ยดินกลบให้สนิทก็เป็นอันเสร็จกิจ แต่กว่าจะเสร็จได้ก็พอดีกับเป็นเวลาพระฉันอาหารเช้าพอดี
หลังจากเสร็จภารกิจประจำวัน พนักงานเทศบาลมักจะไปกราบพระขอเป็นลูกศิษย์ เพื่อจะรับประทานอาหารข้าวก้นบาตรเป็นประจำ วันหนึ่งขณะที่กำลังรับประทานอาหาร พระท่านก็ถามด้วยความสงสัยว่า
“นี่โยม ทำงานแบบที่โยมทำอยู่นี้ไม่รังเกียจบ้างหรือ ?”
“ไม่หรอกครับพระอาจารย์ ตอนแรกๆ ก็รังเกียจอยู่เหมือนกัน”
พนักงานที่เป็นหัวหน้าตอบ พร้อมกันนั้นลูกน้องที่นั่งร่วมวงก็เสริมขึ้น
“ท่านครับ! ผมเองใหม่ๆทานอาหารไม่ได้อยู่หลายวัน มันรู้สึกรังเกียจเป็นอย่างมาก แต่พอนานๆ เข้าก็ชินไปเอง ไม่รู้สึกรังเกียจ ไม่รู้สึกว่าเหม็นแต่อย่างใด ยิ่งกว่านั้นมันทำท่าว่าจะติดเอาเสียด้วยซีท่าน อย่างผมเนี่ย วันไหนหยุดงานใจคอมันหงุดหงิดอย่างไรชอบกล รู้สึกว่ามันขาดอะไรไปสักอย่าง แม้เวลาตดจะต้องกำเอามาดมเสียอีกถึงค่อยยังชั่ว”
“ยังงั้นหรือโยม” พระท่านรับทราบแล้วก็เดินจากไป
ชินชาจนชาชิน
ปิดความเห็น บน ชินชาจนชาชิน