รวมปัญหา ถาม ตอบ ศาสนาพิธี

      ปิดความเห็น บน รวมปัญหา ถาม ตอบ ศาสนาพิธี

ปัญหาศีลธรรม

ระดับมัธยมศึกษา ตอนต้น

ฉบับเตรียมสอบตอบปัญหาศีลธรรม(ศาสนพิธี)

 

  1. ศาสนพิธี คืออะไร       คือ แบบอย่างหรือแบบต่าง ๆ ที่จะพึงปฏิบัติทางศาสนา
  2. ศาสนพิธีเกิดขึ้นก่อนหรือภายหลังศาสนา?         ภายหลังศาสนา
  3. การสอนให้ปฏิบัติตนอย่างไร, จึงชื่อว่าเป็นหลักการตามพระพุทธศาสนา ? สอนไม่ให้ทำความชั่วทั้งปวง ๑  สอนให้ทำแต่ความดี(กุศล) ๑   สอนให้ทำจิตใจของตนผ่องใส ๑
  4. หลักการทำบุญ มีเท่าไร           มี ๓ อย่าง คือ บริจาคทาน(ทายมัย) รักษาศีล(ศีลมัย) เจริญภาวนา(ภาวนามัย)
  5. เพราะเหตุไร จึงมีวิธีรับศีลก่อนบริจาคทาน          เพราะผู้บริจาคมีศีล ผู้รับทานมีศีล ทานที่ให้ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก  จะไม่รับไม่ได้หรือ  จะไม่รับศีลก่อนก็ได้  แต่เมื่อผู้บริจาคไม่มีศีล ทานที่บริจาคนั้นก็มีอานิสงส์น้อย
  6. ศาสนพิธี แบ่งออกเป็น  หมวด คือ ๑. หมวดกุศลพิธี ว่าด้วยพิธีบำเพ็ญกุศล(ความดี) ๒.หมวดบุญพิธี  ว่าด้วยพิธีทำบุญ ๓.หมวดทานพิธี ว่าด้วยพิธีถวายทาน ๔.หมวดปกิณกะ ว่าด้วยพิธีเบ็ดเตล็ด
  7. การแสดงตนเป็นพุทธมามกะนั้น หมายความว่า  การประกาศตนว่าเป็นผู้รับนับถือพระพุทธเจ้าเป็นของตน เป็นการแสดงตนให้ปรากฏว่ายอมรับนับถือพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาของตน
  8. การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ มีมาตั้งแต่ครั้ง       พุทธกาล
  9. การแสดงตนเป็นภิกษุสามเณรก็ดี เป็นอุบาสกอุบาสิกาก็ดี นับเป็นการแสดงตนเป็นพุทธมามกะด้วยหรือไม่     นับเป็นการแสดงตนเป็นพุทธมามกะด้วย
  10. คำว่า อุบาสก หมายถึง     ผู้ใหญ่ที่ศรัทธาเลื่อมใสด้วยตนเอง
  11. คำว่า พุทธมามกะ หมายถึง  เด็กที่ยอมรับนับถือพระพุทธศาสนาว่าเป็นศาสนาของตน
  12. การแสดงตนเป็นพุทธมามกะนั้น ควรแสดงเมื่อ       มีอายุ ๑๒-๑๕ ปี   เมื่อจะส่งบุตรหลานไปเรียนในโรงเรียนของคนต่างศาสนา เมื่อจะส่งไปศึกษาต่อในต่างประเทศ เมื่อเปิดภาคการศึกษาใหม่ หรือเมื่อเข้ามานับถือพุทธศาสนาใหม่
  13. อิมินา สกฺกาเรน พุทฺธํ ปูเชมี ฯลฯ  เป็นคำอะไร?            เป็นบูชาพระด้วยสักการะ
  14. นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เป็นคำอะไร           เป็นคำนมัสการ
  15. คำว่า เอสาหํ ภนฺเต สุจิรปรินิพฺพุตมฺปี, ตํ ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ, ธมฺมญฺจ สงฺฆญฺจ พุทฺธมามโกติ มํ สงฺโฆธาเรตุ ฯ เป็นคำอะไร              คำปฏิญญาณตนเป็นพุทธมามากะ
  16. มยํ ภนฺเต วิสุ วิส รกฺขณตฺถาย ติสรเณน สห ปญฺจ สีลานิ ยาจามิ เป็นคำอะไร       เป็นคำอาราธนาศีล ๕
  17. พึงกรวดน้ำ เมื่อพระกล่าวด้วยบทว่า ยถา    พึงประนมมือเมื่อพระวาด้วยบท สพฺพีตีโย
  18. การกราบด้วยการทั้ง ๕ คือ เข่า ๒ ข้อศอกทั้ง ๒ และหน้าผากจดพื้น ๑ รวมเป็น ๕ เรียกว่ากราบด้วย             เบญจางคประดิษฐ์
  19. การรักษาอุโบสถศีล รักษาได้ชั่วระยะเวลา        วันหนึ่งกับคืนหนึ่ง
  20. คำว่า           อิมํ อฏฺฐงฺคสมนฺนาคตํ พุทฺธปญฺญตฺตํ อุโปสถํ ฯลฯ เป็นคำ    อธิษฐานอุโบสถ
  21. ค่า มยํ ภนฺเต ติสรเณน สห อฏฺฐงฺสมนฺนาคตํ อุโปสถํ ยาจาม  เป็นคำ         ขอศีลอุโบสถ
  22. คำว่า อฏฺฐมี  หมายถึงวัน ๘ ค่ำ คำว่า จาตุทฺทสี  หมายถึงวัน ๑๔ ค่ำ  และคำว่า ปณฺณรสี หมายถึง วัน ๑๕ ค่ำ  ทั้ง ๓ วันนี้ รวมเรียกว่า  วันพระ(วันธรรมสวนะ)
  23. คำว่า หนฺทนานิ มยํ ภนฺเต อาปุจฺฉาม หพุกิจฺจา มยํ พหุกรณียา  เป็นคำสำหรับอุบาสกอุบาสิกา กล่าว  คำลา  พระสงฆ์ก่อนจะกลับบ้าน หลังจากฟังธรรมเทศนาแล้ว
  24. เมื่ออุบาสกอุบาสิกา กล่าวคำลาแล้ว พระสงฆ์จะกล่าวตอบว่า       ยสฺสทานิ ตุมฺเห กาลํ มญฺญถ
  25. พิธีเวียนเทียน ในวันสำคัญทางศาสนามี วัน คือ          วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอัฏฐมีบูชาและวันอาสาฬหบูชา
  26. วันที่คล้ายกับวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน เรียกว่าวัน          วิสาขบูชา(วันเพ็ญเดือน ๖)
  27. วันที่คล้ายกับวันถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า เรียกว่าวัน  อัฏฐมีบูชา (วันแรก ๙ ค่ำ เดือน ๖)
  28. วันทีคล้ายกับวันแสดงโอวาทปาติโมกข์(ประกาศหลักธรรม) เรียกว่าวัน    มาฆบูชา (เพ็ญเดือน ๓
  29. วันที่คล้ายกับวันแสดงธรรมจักร(วันพระสงฆ์) เรียกว่าวัน อาสาฬหบูชา(เพ็ญเดือน ๘)
  30. วันแสดงโอวาทปาติโมกข์(วันพระธรรม) เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าวัน   จาตุรงคสันนิบาต
  31. วันจาตุรงคสันนิบาต ประกอบด้วยองค์ ๔ คือ   ๑.พระสงฆ์ ๑,๒๕๐ รูปล้วนเป็นพระอรหันต์  ๒. ล้วนเป็นเอหิภิกขุทั้งสิ้น ๓. มาโดยไม่ได้นัดหมายกัน ๔. วันนั้นเป็นวันเพ็ญเดือนมาฆะ
  32. การเดินเวียนเทียน ควรเดิน     เวียนขวา           และเดิน   ๓  รอบ
  33. ในศาสนพิธีแบ่งการทำบุญออกเป็น  อย่าง คือ           ทำบุญงานมงคล  และทำบุญงานอวมงคล
  34. การทำบุญงานมงคล เช่น  ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญแต่งงาน ทำบุญวันเกิด เป็นต้น
  35. การทำบุญงานอวมงคล เช่น ทำบุญศพ ๗ วัน ๕๐ วัน ๑๐๐ วัน หรือทำบุญอัฐิ
  36. คำว่า           ทายก     หมายถึง            ผู้ให้ คือเจ้าภาพ
  37. คำว่า           ปฏิคาหก  หมายถึง  ผู้รับ คือพระสงฆ์
  38. สายสิญจน์ คือ  เส้นด้ายที่ใช้ในพิธี นิยมใช้  ๓ เส้น หรือ ๙ เส้น
  39. การวงสายสิญจน์ ควรวงจาก  องค์พระพุทธรูป เวียนขวา วนไปรอบบ้านแล้วกลับมาที่องค์พระ
  40. การอาราธนาศีล อาราธนาปริตร หรืออาราธนาธรรม โดยปกติเป็นหน้าที่ของ         พิธีกร
  41. พิธีกร คือ บุคคลผู้แนะนำในการประกอบพิธี
  42. อาราธนา     หมายถึง การเชื้อเชิญ  การนิมนต์ให้พระสงฆ์เริ่มประกอบพิธี
  43. ไวยาวัจกร    หมายถึง ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนพระสงฆ์ (ผู้รับใช้พระสงฆ์ในด้านต่างๆ)
  44. คำถวายข้าวพระพุทธ  ว่า  อิมํ อูปพยญฺชนสมฺปนฺนํ สาลีนํ โอทนํ อุทกํ วรํ พุทฺธสฺส ปูเชมิ.
  45. คำลาข้าวพระพุทธ  วา  เสสํ มงฺคลา ยาจามิ หรือ  เสสํ มงฺคลํ ยาจามิ ก็ได้
  46. วัตถุสิ่งของที่พระสงฆ์ใช้ถือในการให้ศีล ในเวลาขัดตำนาน ในเวลาอนุโมทนา  เรียกว่า ตาลปัตร
  47. เจ้าภาพควรจุดเทียนทำน้ำมนต์  เวลาที่พระสงฆ์สวดถึงคำว่า       อเสวนา จ พาลานํฯ
  48. วัตถุที่เป็นเครื่องประพรมน้ำพระพุทธมนต์นั้น นิยมใช้  กำหญ้าคา  หรือ ก้านมะยม
  49. ภูษาโยง หมายถึง  แผ่นผ้าพับยาว สำหรับเชื่อมต่อจากศพ เพื่อทอดผ้าบังสุกุล
  50. หากไม่มีภูษาโยง  ใช้ สายโยง คือ  ด้วยสายสิญจน์แทนก็ได้
  51. ทานพิธี  หมายถึง  พิธีถวายทาน  มี  ๒  อย่าง  คือ  การถวายโดยเจาะจง เรียกว่า ปาฏิปุคคลิกทาน  และ การถวายโดยไม่เจาะจง  เรียกว่า สังฆทาน
  52. ที่กำหนดระยะเวลาถวาย เช่น พิธี        ถวายผ้ากฐิน (กำหนดระยะเวลาภายใน ๑ เดือน)
  53. ที่ไม่กำหนดระยะเวลาถวาย เช่น พิธี ถวายผ้าป่า ถวายอติเรกจีวร เป็นต้น
  54. ปัจจัย ๔ ของพระภิกษุ คือ จีวร อาหารบิณฑบาต เสนาสนะ คิลานเภสัช(ยารักษาโรค)
  55. ก่อนถวายสังฆทาน พึงปฏิบัติอย่างนี้ คือ  จุดธูปเทียนบูชาพระ อาราธนาศีล รับศีล กล่าวคำนมัสการ (นโม ๓ จบ) แล้วกล่าวคำถวายสังฆทาน ประเคนของ  กรวดน้ำ
  56. อิมานิ มยํ ภนฺเต ภตฺตานิ สปริวารานิ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ฯลฯ เป็นคำ    ถวายสังฆทาน
  57. จำเป็นหรือไม่  ที่จะกล่าวคำถวายเป็นภาษาบาลี             ไม่จำเป็น  กล่าวเป็นภาษาไทยก็ได้
  58. การแสดงความเคารพ ทำได้  วิธี      คือ ประนมมือ ฟังเทศน์ รับศีล
  59. การแสดงความเคารพด้วยการประนมมือ มักใช้ในเวลา  สวดมนต์ ฟังเทศน์ รับศีล
  60. การแสดงความเคารพด้วยการไหว้  มักใช้ในเวลา          นั่งอยู่บนเก้าอี้หรือยืน
  61. การแสดงความเคารพด้วยกราบ มักใช้ในเวลา   กราบพระพุทธรูป กราบพระสงฆ์ที่นั่งอยู่
  62. การกราบที่ถูกต้อง เรียกว่า      เบญจางคประดิษฐ์  คือ ให้หน้าผาก ๑ ฝ่ามือ ๒ เข่า ๒ จดพื้น
  63. การนั่งท่าพรหม คือ การนั่งโดย          เอาฝ่าเท้ายันพื้นกับก้น
  64. การนั่งท่าเทพธิดา  คือ  การนั่งโดย      เอาฝ่าเท้าเหยียดออกไปรองก้น
  65. คำว่า  ประเคน  หมายความว่า             มอบของให้ด้วยมือของตน
  66. ระยะการประเคน คือ ระยะห่างกันระหว่างผู้รับประเคนกับผู้ประเคน ประมาณ ๑ ศอก
  67. ฎีกานิมนต์พระ  หมายถึง  หนังสืออาราธนาหรือนิมนต์พระ ไปในงานพิธีอะไร ทีไหน เมื่อไหร่
  68. ใบปวารณา  หมายถึง             สิ่งที่ใช้แทนปัจจัย ๔ ของพระ(ธนบัตร)หรือเงินสด
  69. การไหว้พระสวดมนต์ สงเคราะห์เข้าในปัญญาข้อใดในปัญญา ๓  สงเคราะห์เข้าในภาวนามยปัญญา
  70. ผู้นับถือพระพุทธศาสนา ทั่ว ๆ ไป เรียกว่า   พุทธศาสนิกชน
  71. การจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย ควรจุดทางด้านใดก่อน   ด้านขวามือพระพุทธรูปก่อน(ด้านซ้ายมือผู้จุด)
  72. ขณะที่พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ทำพิธี  พุทธศาสนิกชนที่ดีควรทำ  อัญชลี หรือ ประนมมือ
  73. คำว่า  สพฺเพ สตฺตา อเวรา โหนฺตุ  ฯลฯ  เป็นคำ     แผ่เมตตา
  74. คำกรวดน้ำแบบสั้น  ว่า  อิทํ เม ญาตีนํ โหตุ
  75. ทำบุญที่วัดแล้วกลับไปกรวดน้ำที่บ้าน  ได้หรือไม่         ได้  เพราะไม่ได้บังคับไว้

ดาวน์โหลดสื่อการสอน

เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....