ปัญหาพุทธประวัติ 158 ข้อ พร้อมเฉลย

      ปิดความเห็น บน ปัญหาพุทธประวัติ 158 ข้อ พร้อมเฉลย

คำถามคำตอบ

วิชาประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา

 

๑.         ถาม      ชมพูทวีป ได้แก่ประเทศอะไร ในปัจจุบัน..?

            ตอบ      ประเทศอินเดีย, เนปาล, ปากีสถาน, อัฟกานิสถาน, และบังคลาเทศ

๒.        ถาม      พวกมิลักขะ กับพวกอริยกะ ใครอยู่ในชมพูทวีปก่อน..?

            ตอบ      พวกมิลักขะ

๓.         ถาม      ชนที่มีความเจริญทางขนบธรรมเนียม และมีอำนาจมาก คือ…?

            ตอบ      ชนชาวอริยกะ

๔.         ถาม      ชมพูทวีปมีกี่ส่วน…?

            ตอบ      มี  ๒  ส่วน  คือมัชฌิมประเทศ  และปัจจันตชนบท

๕.         ถาม      เมืองที่เป็นใจกลางของประเทศ เรียกว่าอะไร…?

            ตอบ      มัชฌิมประเทศ

๖.         ถาม      ชนบท  ๑๖  แคว้นในชมพูทวีปคือ..?

            ตอบ      อังคะ มคธะ กาสี โกสละ วัชชี มัลละ เจตี วังสะ กุรุ ปัญจาละ  มัจฉะ  สุรเสนะ  อัสสกะ  วอันตี  คันธาระ และกัมโพชะ

๗.         ถาม      ชื่อแคว้นที่นอกเหนือไปจาก  ๑๖  แคว้นมีเท่าไร..?

            ตอบ      มี  ๕  แคว้น  คือ  สักกะ  โกลิยะ  ภัคคะ  วิเทหะ  อังคุตตราปะ

๘.         ถาม      ผู้ปกครองในครั้งนั้นเป็นรูปแบบใด..?

            ตอบ      เป็นมหาราชบ้าง  เป็นราชาบ้าง  เป็นอธิบดีบ้าง

๙.         ถาม      การปกครองในครั้งนั้นเป็นรูปแบบใด…?

            ตอบ      ปกครองโดยอำนาจสิทธิ์ขาดบ้าง โดยสามัคคีธรรมบ้าง บางครั้งก็เป็นอิสระบ้าง  บางครั้งก็ถูกเขาปกครองบ้าง

๑๐.       ถาม      ทำไมคนในยุคนั้นจึงมีทิฏฐิมาก..?

            ตอบ      เพราะศึกษาวิชาธรรมมาก

๑๑.       ถาม      พระเจ้าโอกกากราชมีพระราชโอรสกี่พระองค์..?

            ตอบ      มี  ๙  พระองค์  คือ  พระราชบุตร ๔ พระองค์  พระราชธิดา  ๕  พระองค์

๑๒.      ถาม      พระราชโอรสและพระราชธิดาไปสร้างพระนครใหม่ที่ไหน..?

            ตอบ      ที่ป่าไม้สักกะ

๑๓.       ถาม      ป่าไม้สักกะ  เป็นที่อยู่ของใครมาก่อน..?

            ตอบ      ของดาบสชื่อกบิล

๑๔.       ถาม      ในแคว้นวัชชี  มีกษัตริย์วงศ์ไหนปกครอง…?

            ตอบ      กษัตริย์วงศ์ลิจฉวี

๑๕.       ถาม      ในแคว้นมัลละ  มีกษัตริย์วงศ์ไหนปกครอง…?

            ตอบ      กษัตริย์วงศ์มัลละ

๑๖.       ถาม      ที่ได้นามว่า ศากยะหรือสักกะ  เพราะสาเหตุอะไร..?

            ตอบ      มี  ๒  สาเหตุ คือ ๑. น่าจะได้ตามชื่อชนบท  ๒.ท่านสันนิษฐานว่าพระบิดาทรงชมเชยว่าเป็นผู้สามารถที่ตั้งเมืองใหม่ได้ ฉะนั้น  จึงชื่อว่า  ศากยะหรือสักกะ

๑๗.       ถาม      พระเจ้าชยเสน มีพระราชบุตร-ธิดา  ๒  พระองค์ คือ…?

            ตอบ      สีหนุกุมาร และพระนางยโสธรา

๑๘.       ถาม      พระเจ้าสีหนุกับพระเจ้าอัญชนะเป็นอะไรต่อกัน…?

            ตอบ      ต่างก็ได้น้องสาวของกันและกันมาเป็นพระมเหสี

๑๙.       ถาม      ใครเป็นพระราชบิดา-ราชมารดา ของเจ้าชายสิทธัตถะ..?

            ตอบ      พระเจ้าสุทโธทนะ  และพระนางสิริมหามายา

๒๐.      ถาม      สิทธัตถกุมาร  ประสูติที่ไหน  เมื่อไร…?

            ตอบ      ที่ใต้ร่มไม้สาละ  ณ  สวนลุมพินีวัน  ในระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับกรุงเทวทหะต่อกัน เมื่อเดือนวิสาขมาส ดิถีเพ็ญพุทธศก  ๘๐  ปี

๒๑.      ถาม      เมื่อพระกุมารประสูติได้มาปาฏิหาริย์อะไรบ้าง..?

            ตอบ      มีอย่างนี้คือ        ๑. พระมารดาประทับยืน  ๒. ประสูติอย่างบริสุทธิ์ไม่แปดเปื้อนมลทินครรภ์  ๓. มีเทวดามารองรับ  ๔. มีธารน้ำร้อนเย็นตกลงมาจากอากาศสนานพระวรกาย  ๕. ทรงเดินได้  ๗  ก้าว  ๖.  ทรงเปล่งพระวาจาเป็นบุพนิมิตแห่งโพธิญาณ   ๗. แผ่นดินไหว

๒๒.     ถาม      คติ ๒  อย่างของเจ้าชายสิทธัตถะคือ..?

            ตอบ      ๑. ถ้าออกบวชจะได้ตรัสรู้เป็นพระเจ้าพุทธเจ้า   ๒. ถ้าครองฆราวาสจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ

๒๓.      ถาม      ใครที่เข้าเยี่ยมและทำนายว่ามีคติเป็น ๒ พร้อมกับกราบพระกุมารด้วย

            ตอบ      อสิตดาบส

๒๔.      ถาม      เจ้าชายสิทธัตถะ  ศึกษาศิลปะวิทยากับใคร..?

            ตอบ      ครูวิศวามิตร

๒๕.      ถาม      เจ้าชายสิทธัตถะทรงอภิเษกสมรสเมื่ออายุเท่าไร.?

            ตอบ      ๑๖  พรรษา

๒๖.      ถาม      เจ้าชายสิทธัตถะออกผนวชเมื่อพระชนม์เท่าไร  ออกกับใคร..?

            ตอบ      เมื่อ  ๒๙  พรรษา  กับนายฉันนะ

๒๗.      ถาม      ใครที่ทำนายลักษณะของสิทธัตถกุมารว่ามีคติอย่างเดียวคือต้องออกบวชและได้ตรัสรู้แน่..?

            ตอบ      โกณฑัญญะพราหมณ์

๒๘.      ถาม      พระเจ้าสุทโธทนะทรงไหว้พระโอรสกี่ครั้ง  ตรงไหนบ้าง..?

            ตอบ      ๓  ครั้ง  คือ ๑. ตอนอสิตดาบสกราบพระกุมาร  และทำนายลักษณะ  ๒. ตอนพระกุมารนั่งขัดสมาธิใต้ร่มชมพูพฤกษ์ (ต้นหว้า)  ๓. ตอนที่พระพุทธเจ้าแสดงปาฏิหาริย์เพื่อทำลายทิฏฐิของประยูรญาติ

๒๙.      ถาม      พระบิดาให้สร้างปราสาท  ๓  ฤดูให้พระกุมารเพื่อประโยชน์อะไร ?

            ตอบ      เพื่อจะผูกพระกุมารให้ยินดีในราชสมบัติ

๓๐.       ถาม      เทวทูตทั้ง ๔  คืออะไร..?

            ตอบ      คนแก่  คนเจ็บ  คนตาย  และบรรพชิต

๓๑.       ถาม      เจ้าชายสิทธัตถะ  เสด็จออกบรรพชาในเวลาไหน  ไปด้วยอะไร กับใคร…?

            ตอบ      เวลากลางคืน  ทรงม้ากัณฐกะ  ออกไปพร้อมด้วยนายฉันนะเป็นคนติดตาม

๓๒.      ถาม      พระองค์ทรงอธิษฐานเพศบรรพชิต  ณ  ที่ไหน..?

            ตอบ      ที่ฝั่งแม่น้ำอโนมานที

๓๓.      ถาม      พระองค์คิดอย่างไร  จึงพอพระทัยในบรรพชา…?

            ตอบ      เห็นว่าฆราวาสคับแคบ  เป็นที่ตั้งแห่งอารมณ์เศร้าหมองได้ง่าย

๓๔.      ถาม      พระองค์ตัดพระเกศาให้เหลือยาวประมาณเท่าไร…?

            ตอบ      ยาว  ๒  นิ้ว

๓๕.      ถาม      การเสด็จออกบรรพชา  พระอรรถกถาจารย์แสดงไว้กี่นัย..?

            ตอบ      ๒  นัย  คือเสด็จอกในเวลากลางคืน  และทรงผนวชต่อหน้าพระราชบิดาและมารดาซึ่งกำลังโศกเศร้าอยู่

๓๖.      ถาม      ผ้าที่เขาย้อมด้วยเปลือกไม้บ้าง   แก่นไม้บ้าง  แล้วแต่จะหาได้มีสีหม่น ๆ คือผ้าอะไร..?

            ตอบ      ผ้ากาสายะ  หรือผ้ากาสาวะ

๓๗.      ถาม      ไตรจีวรมีอะไรบ้าง..?

            ตอบ      มี  ๑. ผ้าสังฆาฏิ  ๒. ผ้าอุตราสงค์    ๓. ผ้าอันตราวาสก

๓๘.      ถาม      เจ้าชายสิทธัตถะ  ออกบวชเมื่อมีพระชนมายุเท่าไร..?

            ตอบ      ๒๙  พรรษา

๓๙.      ถาม      เจ้าชายสิทธัตถะออกบวชแล้ว  แสวงหาโมกขธรรมอยู่กี่ปี จึงได้ตรัสรู้

            ตอบ      ๖  ปี

๔๐.       ถาม      ใครเป็นผู้ทูลว่าถ้าตรัสรู้แล้วขอให้เสด็จมาเทศนาโปรด..?

            ตอบ      พระเจ้าพิมพิสาร

๔๑.       ถาม      พระองค์ได้อะไรจากสำนักของอาฬารดาบสและอุทกดาบส..?

            ตอบ      ได้สมาบัติ  ๗  ในสำนักอาฬารดาบส  และได้สมาบัติ  ๘  ในสำนักของอุทกดาบส

๔๒.      ถาม      อาฬารดาบสและทุทกดาบสสรรเสริญพระองค์ว่าอย่างไร…?

            ตอบ      ว่ามีความรู้เสมอด้วยตนและเชิญให้อยู่สอนศิษย์ด้วยกัน

๔๓.      ถาม      ทำทุกรกิริยาวาระแรกทำอย่างไร..?

            ตอบ      กัดฟันด้วยฟัน  เอาลิ้นกดเพดานไว้แน่น จนเหงื่อไหลออกจากรักแร้

๔๔.      ถาม      ทรงผ่อนกลั้นลมหายใจเข้าออก  เมื่อลมเดินไม่สะดวกทางช่องจมูกและปาก ก็เกิดเสียงดังอู้ทางหูทั้งสอง  ทำให้ปวดศรีษะ  จุกเสียดในท้อง ร้อนกายอย่างแรง

๔๕.      ถาม      ทุกรกิริยาวาระที่สามทำอย่างไร..?

            ตอบ      ทรงอดอาหารเสวยแต่วันละน้อย ๆ และอาหารละเอียดจนร่างกายซูบผอม  ผิวพรรณเศร้าหมองจนกระดูกปรากฏทั่วกายเมื่อลูบตัวขนก็หลุดร่วงไปด้วย

๔๖.      ถาม      ปัญจวัคคีย์บรรพชิต  ๕  รูป  คือใครบ้าง..?

            ตอบ      โกณฑัญญะ  วัปปะ  ภัททิยะ  มหานามะ  และอัสสชิ

๔๗.      ถาม      พวกปัญจวัคคีย์หนีจากพระโพธิสัตว์แล้วไปอยู่ที่ใด..?

            ตอบ      ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน  แขวงเมืองพาราณสี

๔๘.      ถาม      พระโพธิสัตว์ทำทุกรกิริยานั้นทำอะไร….?

            ตอบ      ทำอัตตกิลมถานุโยค (การทรมานตนเองให้ลำบาก)

๔๙.      ถาม      ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม  แคว้นมคธ ปัจจุบันเรียกว่าอะไร..?

            ตอบ      พุทธคยา

๕๐.       ถาม      การตั้งพรทัยว่า  “แม้เลือดและเนื้อในกายของเราจะเหือดแห้งไปเหลือแต่หนังเอ็นกระดูกก็ตามเถิด ถ้าไม่บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณแล้วเราจะไม่ลุกขึ้น”  เรียกว่า  ปณิธานอะไร..?

            ตอบ      จตุรงคมหาปธาน

๕๑.       ถาม      พระพุทธเจ้าตรัสรู้ในวันไหน..?

            ตอบ      วันเพ็ญกลางเดือน ๖  ก่อนพุทธศักราช  ๔๕  ปี

๕๒.      ถาม      ปุพเพนิวาสานุสติญาณ  คืออะไร..?

            ตอบ      ญาณที่ทำให้ระลึกชาติก่อน ๆ ได้

๕๓.      ถาม      จุตูปปาตญาณคืออะไร..?

            ตอบ      ญาณที่ทำให้ทราบการจุติและการเกิดของสัตว์ทั้งหลาย หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ทิพจักษุญาณ

๕๔.      ถาม      อาสวักขยญาณคืออะไร….?

            ตอบ      ญาณอันทำให้กิเลสทั้งหลายสิ้นไป

๕๕.      ถาม      ญาณทั้ง  ๓  พระองค์ได้เมื่อไร..?

            ตอบ      ได้เมื่อคืนจะตรัสรู้ คือ เปพเพนิวาสานุสสิญาณได้ในตอนปฐมยาม  จุตูปปาตญาณได้ในมัชฌิมยาม และอาสวักขยญาณได้ในปัจฉิมยาม

๕๖.      ถาม      ใครถวายบิณฑบาตแก่พระองค์ในคราวจะตรัสรู้…?

            ตอบ      นางสุชาดา  บุตรีของนายบ้านเสนานิคม

๕๗.      ถาม      พระองค์รับบิณฑบาตแล้ว  เสด็จไปไหนและทำอะไร..?

            ตอบ      ไปยังแม่น้ำเนรัญชรา  ทรงสรงแล้ว  จีงเสวยข้าวมธุปายาสและก็ลอยถาดในแม่น้ำนั้น

๕๘.      ถาม      ใครถวายหญ้าแก่พระองค์..?

            ตอบ      โสตถิยพราหมณ์

๕๙.      ถาม      บารมี  ๑๐  ทัศ  คืออะไรบ้าง..?

            ตอบ      คือ ทาน  ศีล  เนกขัมมะ  ปัญญา  วิริยะ  ขันติ  สัจจะ  อธิษฐาน  เมตตา  และอุเบกขา

๖๐.       ถาม      พานิช  ๒  พี่น้อง  คือ ตปุสสะ  และภัลลิกะ  ไปเฝ้าพระพุทธเจ้าที่ไหน..?

            ตอบ      ที่ใต้ร่มไม้เกต  (ราชายตนะ)

๖๑.       ถาม      การเข้าถึงพระพุทธและพระธรรม  เป็นที่พึ่งเรียกว่าอะไร….?

            ตอบ      เทววาจิกา  (ทะ-เว-วา-จิ-กา)

๖๒.      ถาม      ดอกบัว  ๔  เหล่า  คืออย่างไร..?

            ตอบ      ๑. ดอกบัวที่พ้นน้ำแล้วพร้อมที่จะบาน        ๒. ดอกบัวที่ตั้งอยู่เสมอน้ำ           ๓. ดอกบัวที่ยังไม่ขึ้นจากน้ำ                      ๔. ดอกบัวที่อยู่ในเปือกตมจะเป็นอาหารของปลาและเต่า

๖๓.      ถาม      อุปกาชีวกพบพระพุทธเจ้า  ณ ที่ใด..?

            ตอบ      ระหว่างแม่น้ำคยา  กับแดนมหาโพธิ์ต่อกัน

๖๔.      ถาม      พระอัญญาโกณฑัญญะ  ได้ดวงตาเห็นธรรมเพราะธรรมเทศนาชื่ออะไร..?

            ตอบ      ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร

๖๕.      ถาม      ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕  ใครบวชเป็นคนแรก  และด้วยวิธีอะไร…?

            ตอบ      พระอัญญาโกณฑัญญะ  ด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทา

๖๖.       ถาม      ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕  สำเร็จเป็นพระอรหันต์ด้วยเทศนาชื่ออะไร..?

            ตอบ      อนัตตลักขณสูตร

๖๗.      ถาม      ใจความของธัมมจักกัปปวัตตนสูตร  มีว่าอย่างไร..?

            ตอบ      ที่สุด ๒ อย่าง  คือ กามสุขัลลิกานุโยค  และอัตตกิลมถานุโยค  อันบรรพชิตไม่ควรประพฤติและทรงแสดงทางสายกลางว่า บรรพชิตควรประพฤติตามมรรคมีองค์  ๘  เป็นทางที่ทำให้บรรลุมรรคผลได้จากนั้นก็ทรงแสดงอริยสัจ ๔ คือ ทุกข์  สมุทัย นิโรธ มรรค

๖๘.      ถาม      เห็นอย่างไร  จึงชื่อว่าดวงตาเห็นธรรม…?

            ตอบ      เห็นว่า “สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวลล้วนมีความดับเป็นธรรมดา”

๖๙.       ถาม      ใจความของ  อนัตตลักขณสูตร  มีว่าอย่างไร..?

            ตอบ      ขันธ์ ๕ ไม่เที่ยง  เป็นทุกข์  เป็นอนัตตา  ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน  ไม่ควรที่จะไปยึดมั่นถือมั่น

๗๐.       ถาม      พระศาสดาแสดงเทศนาอนุปุพพิกถา  ทรงแสดงว่าอย่างไร..?

            ตอบ      แสดงอย่างนี้ คือ ก. ทานกถา  พรรณนาถึงการให้  การบริจาคก่อน

                        ข. สีลกถา  พรรณนาถึงศีล  การรักษากาย  วาจา ให้เรียบร้อย

                        ค. สัคคกถา  พรรณนาถึงสวรรค์  คือผลของความดีที่บุคคลพึงได้เมื่อทำทานและรักษาศีลแล้ว

                        ฆ. กามาทีนวกถา  พรรณนาถึงโทษของกาม                       

                        ง. เนกขัมมานิสังสกถา  พรรณนาถึงโทษของกาม

๗๑.       ถาม      ใครที่ปฏิญาณตนเป็นอุบาสกและอุบาสิกา โดยถึงรัตนะทั้ง ๓ เป็นที่พึ่งคนแรก..?

            ตอบ      บิดามารดาและภรรยาเก่าของพระยสะ

๗๒.      ถาม      สหายของพระยสะ  มีเท่าไร  ใครบ้าง..?

            ตอบ      มี ๔๕ คน แต่มีชื่อปรากฎเพียง ๔ คน คือ วิมละ  สุพาหุ  ปุณณชิ  ควัมปติ

๗๓.      ถาม      ชฏิล  ๓  พี่น้อง  คือใครบ้าง  มีบริวารคนละเท่าไร…?

            ตอบ      ๑. พี่คนใหญ่      ชื่อ  อุรุเวลกัสสปะ                       มีบริวาร  ๕๐๐  คน

                        ๒. คนกลาง        ชื่อ  นทีกัสสปะ               มีบริวาร  ๓๐๐  คน

                        ๓.  คนเล็ก         ชื่อ  คยากัสสปะ              มีบริวาร  ๒๐๐  คน

๗๔.      ถาม      ชฏิล  ๓  พี่น้อง  พร้อมด้วยบริวารบรรลุธรรมด้วยเทศนาอะไร…?

            ตอบ      อาทิตตปริยายสูตร

๗๕.      ถาม      อาทิตตปริยายสูตร  มีใจความว่าอย่างไร..?

            ตอบ      ว่า  อายตนะภายใน อายตนะภายนอก วิญญาณ สัมผัส และเวทนาเป็นของร้อน  ร้อนเพราะไฟ คือราคะ  โทสะ  โมหะ ร้อนเพราะความเกิด  แก่  เจ็บ  ตาย ความเศร้าโศกร่ำไรรำพันต่าง ๆ

๗๖.      ถาม      การบวชที่พระศาสดาทรงอนุญาตให้พระสาวกบวชให้กุลบุตรเองเรียกว่าอะไร…?

            ตอบ      ติสรณคมนูปสัมปทาหรือไตรสรณคมม์

๗๗.      ถาม      ใครเป็นผู้ถวายอุทยานเวฬุวัน…?

            ตอบ      พระเจ้าพิมพิสาร

๗๘.      ถาม      เหตุใด  พระพุทธเจ้าจึงประดิษฐานศาสนาในแคว้นมคธก่อน….?

            ตอบ      เพราะเป็นที่รวมอยู่ของคณาจารย์  เจ้าลัทธิต่าง ๆ มากมาย

๗๙.      ถาม      ความประสงค์ ๕ ประการ  ของพระเจ้าพิมพิสาร คืออะไร..?

     ตอบ ๑. ขอให้ข้าพเจ้าได้อภิเษกเป็นพระเจ้าแผ่นดินในแคว้นมคธนี้  ๒. ขอให้ท่านผู้เป็นอรหันต์  พึงมาสู่แคว้นของข้าพเจ้า

            ๓. ขอให้ข้าพเจ้าได้นั่งใกล้พระอรหันต์นั้น      ๔. ขอให้ท่านผู้เป็นอรหันต์  พึงมาสู่แคว้นของข้าพเจ้า  ๕. ขอให้ข้าพเจ้ารู้ทั่วถึงธรรมของพระอรหันต์นั้น

๘๐.       ถาม      ใครได้ดวงตาเห็นธรรมแล้ว ไปบอกเพื่อนจนได้ดวงตาเห็นธรรมตามและเพื่อนคือใคร..?

            ตอบ      พระสารีบุตร เพื่อนคือ พระโมคคัลลานะ

๘๑.       ถาม      พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ  ใครได้บรรลุพระอรหันต์ก่อนที่ไหน  บวชได้  กี่วันจึงบรรลุ..?

            ตอบ      พระโมคคัลลานะ  ได้บรรลุก่อนที่บ้านกัลลวาลมุตตคาม  แขวงเมืองราชคฤห์หลังจากบวชแล้ว  ๗  วัน  ส่วนพระสารีบุตร บรรลุที่ถ้ำสกรขาตา  เขาคิชฌกูฏ  แขวงเมืองราชคฤห์ หลังจากบวชแล้ว  ๑๕  วัน

๘๒.      ถาม      พระอัครสาวกทั้ง ๒  ได้รับการยกย่องในทางไหน…?

            ตอบ      พระสารีบุตรในทางมีปัญญามาก  พระโมคคัลลานะ  ในทางมีฤทธิ์มาก

๘๓.      ถาม      อุปติสสะ  ได้ฟังธรรมจากใครจึงได้ดวงตาเห็นธรรม…?

            ตอบ      จากพระอัสสชิ

๘๔.      ถาม      พระศาสดาแสดงธรรมให้ใครฟังที่พระสารีบุตรได้ฟังแล้วบรรลุพระอรหันต์..?

            ตอบ      ทีฆนขอัคคิเวสนโคตร

๘๕.      ถาม      ความเห็นที่ว่า “สิ่งทั้งปวงไม่ควรแก่ข้าพเจ้า ๆ ไม่ชอบใจหมด” นี้เป็นทิฏฐิของใคร….?

            ตอบ      ทีฆนขอัคคิเวสนโคตร

๘๖.      ถาม      พระศาสดาทรงเปรียบพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ  เหมือนอะไร..?

            ตอบ      พระสารีบุตรเปรียบเหมือนมารดา  พระโมคคัลลานะเหมือนนางนม

๘๗.      ถาม      เมืองมคธกังอังคะรวมเข้ากันโดยมีราชคฤห์เป็นเมืองหลวงนั้น มีอาณาเขตติดต่อกับแดนอื่นอย่างไร..?

            ตอบ      ก. ทิศเหนือ  จดกาสีชนบทอันสมทบกับโกศลชนบท            ข. ทิศตะวันออก   จดวัชชีชนบท

                        ค. ทิศใต้ จดมหาสมุทร  หรือกลิงคชนบท   ง. ทิศตะวันตก  จดกับชนบทอะไรยังไม่พบหลักฐานแน่นอน

๘๘.      ถาม      พระมหากัสสปะ  เมื่อเป็นมานพมีชื่อว่าอย่างไร..?

            ตอบ      ปิปผลิมาณพ

๘๙.      ถาม      พระศาสดาประทานการบวชแก่พระมหากัสสปะ  โดยประทานโอวาทกี่ข้อ  ณ  ที่ไหน..?

            ตอบ      ๓ ข้อ  ที่ใต้ร่มไทร  เรียกว่า  พหุปุตตนิโครธ  ในระหว่างเมืองราชคฤห์  กับเมืองนาลันทาต่อกัน

๙๐.       ถาม      พระศาสดาทรงอนุญาตให้พระสาวกรับเสนาสนะได้นั้น  เสนาสนะมีกี่ชนิด….?

            ตอบ      มี   ๕   ชนิด  คือ   ๑. วิหาร  เรือนที่มีหลังคาธรรมดา            ๒. อัฑฒโยค  เรือนที่มุงเพียงข้างเดียว

                        ๓. ปราสาท  เรือนเป็นชั้น ๆ  ที่สวยงามน่ารื่นรมย์    ๔. หัมมิยะ  เรือนที่มีหลังคาตัด มีลานที่แสงจันทร์ส่องมาได้

                        ๕. คูหา   ได้แก่ถ้ำ

๙๑.       ถาม      วันจาตุรงคสันนิบาต  พระสงฆ์ทำกันอย่างไร เมื่อไร  ที่ไหน…?

            ตอบ      พระสงฆ์  ๑,๒๕๐  รูป มาประชุมกันเมื่อวันเพ็ญเดือน  ๓  ในเวลาบ่ายโดยมีเหตุ  ๔  ลักษณะ  คือ

                        ๑. พระสงฆ์ที่มาประชุมล้วนเป็นพระอรหันต์          ๒. พระสงฆ์เหล่านั้นล้วนแต่เป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทา

                        ๓. พระสงฆ์เหล่านั้นมาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย            ๔. วันนั้นเป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวงเดือนมาฆะ ที่เวฬุวนาราม กรุงราชคฤห์

๙๒.      ถาม      การทำบุญกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว  เรียกว่าอะไร…?

            ตอบ      ปุพเพเปตพลี

๙๓.      ถาม      บุรพบิดร  มีเท่าไร  อะไรบ้าง…?

            ตอบ      มี  ๓  ชั้น  คือ  บิดา, ปู่, ทวด

๙๔.      ถาม      เทวตาพลี  ของพวกอริยกะทำกันอย่างไร….?

            ตอบ      การวังเวยเทวดามี  ๒  ชนิด คือ     ๑. สังเวยเทวดาที่ดี  เพื่อให้มีความเอ็นดูยิ่งขึ้น ด้วยขนมนมเนยและผลไม้

                                                                    ๒. สังเวยเทวดาที่ร้าย เพื่อมิให้คิดร้ายต่อตน  ด้วยเลือดเนื้อของสัตว์ต่าง ๆ

๙๕.      ถาม      สังฆกรรมที่พระศาสดามอบให้พระสงฆ์เป็นใหญ่นั้น  มีกี่ประเภท…?

            ตอบ      มี  ๔  ประเภท  คือ          ๑. ภิกษุประชุมกันเพียง ๔  รูป เรียกว่า จตุวรรค สำหรับกรรมทั่วไปเว้นปวารณาและอุปสมบท

                        ๒. ภิกษุประชุมกันเพียง ๕ รูป เรียกว่า  ปัญจวรรค  สำหรับอุปสมบทในปัจจันตชนบทและปวารณา

                        ๓. ภิกษุประชุมกันเพียง  ๑๐  รูป เรียกว่า ทสวรรค  สำหรับอุปสมบทในมัธยมประเทศ

                        ๔. ภิกษุประชุมกันเพียง  ๒๐  รูป เรียกว่า วีสติวรรค  สำหรับระงับอาบัติสังฆาทิเสสที่เรียกว่า  อัพภาน

๙๖.       ถาม      ในพระพุทธศาสนาใครทำปุพพเปตพลี  ครั้งแรก…ท

            ตอบ      พระเจ้าพิมพิสาร

๙๗.      ถาม      คำว่า  เปตชน  หมายถึงคนกี่ชนิด…?

            ตอบ      ๒ ชนิด คือ ชนพวกที่ตายไปแล้วทั่วไป และบุรพบิดร  คือญาติที่ตายไปแล้ว

๙๘.      ถาม      ทักษิณาจะสำเร็จแก่ผู้ที่ตายไปแล้ว  ด้วยลักษณะอย่างไร..?

            ตอบ      สำเร็จด้วยลักษณะดังนี้  คือ  ผู้ตายต้องอยู่ในเปตวิสัยและด้วยลักษณะ  ๓  ประการ  คือ

                        ๑. ผู้ถวายทานอุทิศส่วนกุศลให้      ๒. ปฏิคาหก ผู้รับไทยธรรมนั้นทักขิเณยยะ  ได้แก่พระอริยะ

                        ๓. ผู้ตายอนุโมทนาส่วนกุศลนั้นด้วย

๙๙.       ถาม      สักกชนบทนั้น  แบ่งเป็นกี่นคร..?

            ตอบ      แบ่งเป็น  ๓  นคร  คือ ๑. นครกบิลพัสดุ์    ๒. นครวิธัญญา  

                        ๓. นครโคธาฬี  ในมหาปรินิพพานสูตร  ได้เพิ่มนครโกลิยะเข้าอีกด้วย

๑๐๐.     ถาม      ฝนโบกขรพรรษ  คืออะไร..?

            ตอบ      คือฝนที่มีเม็ดสีแดงเมื่อตกลงมา  ผู้ใดปรารถนาให้เปียกก็เปียก ผู้ใด ไม่ปรารถนาก็ไม่เปียก

๑๐๑.     ถาม      เวลาที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรด  พระเจ้าสุทโธทนะได้กราบพรพุทธองค์กี่ครั้งแล้ว….?

            ตอบ      ๓  ครั้งแล้ว  คือ  ๑. เมื่อกาฬเทวิลดาบสกราบ ๒. เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ นั่งขัดสมาธิใต้ร่มไม้  เมื่อวันพืชมงคล

                        ๓. เมื่อพระพุทธองค์เสด็จมาโปรด และได้ทรงแสดงปาฏิหาริย์

๑๐๒.    ถาม      พระพุทธองค์แสดงธรรมโปรด พระเจ้าสุทโธทนะ  ได้บรรลุอะไร…?

            ตอบ      โสดาปัตติผล

๑๐๓.     ถาม      พระศาสดา  แสดงพระเวชสันดรชาดก  แก่ใคร ที่ไหน…?

            ตอบ      แก่พระประยูรญาติชาวศากยะ ที่เมืองกบิลพัสดุ์

๑๐๔.     ถาม      พระกาฬุทายี  เป็นอะไรกับพระพุทธเจ้า….?

            ตอบ      เป็นสหชาติ  (เกิดวันเดียวกัน) กับพระพุทธเจ้า

๑๐๕.     ถาม      อนาถบิณฑิกะ  เป็นอะไรกับราชคฤหเศรษฐี..?

            ตอบ      เป็นน้องเขยของราชคฤหกเศรษฐี

๑๐๖.     ถาม      อนาถบิณฑิกะ  ได้ถวายวัดชื่ออะไรในพุทธศาสนา…?

            ตอบ      เชตวนาราม

๑๐๗.     ถาม      อนาถบิณฑิกะ  ชื่อเดิมว่าอย่างไร  และบรรลุธรรมอะไร…?

            ตอบ      ชื่อสุทัตตะ  บรรลุโสดาปัตติผล

๑๐๘.     ถาม      เมื่อพระพุทธองค์เสด็จมาแคว้นโกศลครั้งแรก  ใครเป็นกษัตริย์ปกครอง..?

            ตอบ      พระเจ้าปเสนทิโกศล

๑๐๙.     ถาม      พระพุทธเจ้าปลงอายุสังขารที่ไหน  วัน   เดือน  ปี  อะไร..?

            ตอบ      ที่ปาวาลเจดีย์   เมื่อวันเพ็ญเดือน  ๓  ปีมะเส็ง

๑๑๐.     ถาม      ในพรรษาสุดท้าย  พระองค์ประทับที่ไหน  เกิดเหตุอะไรขึ้น..?

            ตอบ      ที่บ้านเวฬุวคาม  และทรงประชวรอย่างหนัก

๑๑๑.     ถาม      ถ้าพระองค์อธิษฐานให้ทรงพระชนม์อยู่ต่อไปตลอดกัลป์จะอยู่ได้ด้วยอำนาจอะไร..?

            ตอบ      อิทธิบาทภาวนา

๑๑๒.    ถาม      ทำไม  พระอานนท์จึงไม่อาราธนาให้พระองค์ทรงพระชนม์อยู่ต่อไป..?

            ตอบ      เพราะมารดลใจ

๑๑๓.     ถาม      เมื่อพระพุทธองค์ปลงพระชนมายุสังขาร เกิดเหตุอะไรขึ้น..

            ตอบ      เกิดเหตุต่าง ๆ มีแผ่นดินไหว  เป็นต้น

๑๑๔.     ถาม      แผ่นดินไหวเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า  มีกี่ครั้ง..?

            ตอบ      มี  ๖  ครั้ง   ๑. เสด็จลงสู่พระครรภ์ ๒. ประสูติ         ๓. ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ

                        ๔. แสดงปฐมเทศนา        ๕. ปลงอายุสังขาร           ๖. ปรินิพพาน  ด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ

๑๑๕.     ถาม      พระองค์แสดงสถานที่  ให้พระอานนท์ทูลอาราธนาให้ดำรงพระชนม์ต่อไปกี่แห่ง….?

            ตอบ      ๑๖   แห่ง

๑๑๖.     ถาม      ใครถวายบิณฑบาตแก่พระองค์เมื่อวันจะปรินิพพานและถวายอะไร..?

            ตอบ      นายจุนทะ  ถวายอาหารชื่อสูกรมัททวะ

๑๑๗.     ถาม      ใครถวายผ้าลิงคิวรรณแด่พระพุทธองค์..?

            ตอบ      ปุกกุสะ  บุตรของชาวมัลลกษัตริย์

๑๑๘.     ถาม      พระศาสดามีพระวรกายผุดผ่องกี่ครั้ง..?

            ตอบ      ๒  ครั้ง  คือ  ในราตรีวันตรัสรู้  และในราตรีวันจะปริพพาน

๑๑๙.     ถาม      บิณฑบาตที่มีอานิสงส์มาก  มีกี่ครั้ง  ใครถวาย..?

            ตอบ      มี  ๒  ครั้ง  คือ    ๑. บิณฑบาตที่พระศาสดาเสวยแล้วตรัสรู้ นางสุชาดาถวาย

                                                ๒. บิณฑบาตที่เสวยแล้วจะปรินิพพาน  นายจุนทะถวาย

๑๒๐.    ถาม      พระพุทธเจ้าปรินิพพานที่ไหน  มีพระอาการอย่างไร..?

            ตอบ      ที่สาลวัน  เมืองกุสินารา  ใต้ต้นสาละครั้งคู่  โดยหันพระเศียรไปทางทิศอุดร  ทรงสีหไสยาสน์ข้างขวาด้วยอาการสงบ

๑๒๑.    ถาม      บูชาพระพุทธเจ้าด้วยอามิสและปฏิบัติบูชา  อย่างไรชื่อว่าบูชาอย่างแท้จริง..?

            ตอบ      ปฏิบัติบูชา

๑๒๒.   ถาม      สังเวชนียสถาน  ๔  ตำบล  คือ  ที่ไหนบ้าง…?

            ตอบ      คือ  ๑. สถานที่ประสูติ    ๒. สถานที่ตรัสรู้     ๓. สถานที่แสดงธัมมจักกัปปวันตนสูตร   ๔. สถานที่เสด็จปรินิพพาน

๑๒๓.    ถาม      พระภิกษุพึงปฏิบัติในสตรีทั้งหลายอย่างไร..?

            ตอบ      ปฏิบัติอย่างนี้  คือ  ๑. ไม่เห็นเสียเลยเป็นการดี   ๒. ถ้าเห็นไม่ควรเจรจา   ๓. ถ้าเจรจาต้องมีสติ

๑๒๔.    ถาม      ผู้ที่ควรจะทำสถูปไว้ให้คนทั่วไปได้สักการบูชา  เรียกว่าอย่างไร  มีใครบ้าง…?

            ตอบ      เรียกวา ถูปรหบุคคล มี  ๔ คือ ๑. พระพุทธเจ้า  ๒. พระปัจเจกพุทธเจ้า  ๓. พระอรหันตสาวก  ๔. พระเจ้าจักรพรรดิราช

๑๒๕.    ถาม      ปัจฉิมสาวกคือใคร…?

            ตอบ      พระสุภัททะ

๑๒๖.    ถาม      สุภัททปริพาชก  ใครเป็นผู้บวชให้..?

            ตอบ      พระอานนท์

๑๒๗.    ถาม      พระศาสดาก่อนจะปรินิพพาน ได้ตรัสบอกภิกษุสงฆ์  ให้ทำอะไรแก่พระฉันนะ…..?

            ตอบ      ลงพรหมทัณฑ์

๑๒๘.    ถาม      ปัจฉิมโอวาทของพระพุทธเจ้า  มีเนื้อความว่าอย่างไร..?

            ตอบ      ว่า  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  เราขอเตือนท่านทั้งหลายว่า  สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมความสิ้นไปเป็นธรรมดา  ท่านทั้งหลายจงยังประโยชน์ตนและผู้อื่นให้สำเร็จด้วยความไม่ประมาทเถิด

๑๒๙.    ถาม      พระศาสดา  ปรินิพพานระหว่างเข้าฌานอะไร  กับฌานอะไร…?

            ตอบ      ในระหว่างจุตุตถฌาน  กับอากาสานัญจายตนฌานต่อกัน

๑๓๐.     ถาม      ใครบอกว่า  พระองค์ปรินิพพานระหว่างฌานนั้น…?

            ตอบ      พระอนุรุทธะ

๑๓๑.     ถาม      ตอนพระองค์นิพพานมีพระเถระผู้ใหญ่ปรากฏอยู่กี่รูป..?

            ตอบ      มี  ๒  รูป  คือ  พระอนุรุทธะ กับพระอานนท์

๑๓๒.    ถาม      เหตุใดพระองค์จึงเลือกเสด็จปรินิพพานที่เมืองกุสินารา….?

            ตอบ      เพราะเป็นเมืองที่รุ่งเรืองมาก่อน  สมบูรณ์ด้วยสมบัติทุกอย่าง

๑๓๓.    ถาม      เมื่อจะปรินิพพานพระองค์ได้ให้ใครเป็นผู้แทนพระองค์ หรือตรัสสั่งไว้อย่างไร..?

            ตอบ      มิได้มอบให้พระเถระรูปใดเป็นผู้แทน  แต่ตรัสให้พระธรรมวินัยที่พระองค์แสดงแล้วเป็นผู้แทนพระองค์

๑๓๔.    ถาม      เชิญพระพุทธสรีระไปประดิษฐาน  เพื่อถวายพระเพลิง  ณ ที่ใด..?

            ตอบ      ณ มกุฏพันธเจดีย์  ด้านตะวันออกของกรุงกุสินารา

๑๓๕.    ถาม      หลังจากปรินิพพานแล้วกี่วันจึงถวายพระเพลิง..?

            ตอบ      ๘  วัน

๑๓๖.    ถาม      เมื่อจะถวายพระเพลิงพระมหากัสสปเถระพร้อมด้วยบริวาร  มาจากเมืองไหน..?

            ตอบ      เมืองปาวา

๑๓๗.    ถาม      ถวายพระเพลิงแล้ว  มีอะไรเหลือบ้าง..?

            ตอบ      มีพระอัฐิ, เกศา, โลมา, นขา, ทันตา, กับผ้าอีกคู่หนึ่งเหลืออยู่

๑๓๘.    ถาม      กษัตริย์เมืองไหนที่ได้พระอังคารไป..?

            ตอบ      โมริยกษัตริย์   เมืองปิปผลิวัน

๑๓๙.    ถาม      การถวายพระเพลิงทำกันอย่างไร…?

            ตอบ      หุ้มด้วยผ้าขาวมีสำลีซับถึง  ๕๐๐  ชั้น  แล้วบรรจุลงในรางเหล็ก

๑๔๐.     ถาม      พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในวงศ์อะไร..?

            ตอบ      ในศากยวงศ์

๑๔๑.     ถาม      พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร  จึงได้นามว่า  “อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ”..?

            ตอบ      ตรัสรู้อริยสัจ ๔  คือ ทุกข์  สมุทัย  นิโรธ  มรรค

๑๔๒.    ถาม      เจดีย์  ๔  ประเภท  อันเป็นที่ระลึกถึงพระพุทธเจ้า มีอะไรบ้าง..?

            ตอบ      คือ ๑. ธาตุเจดีย์  ๒. บริโภคเจดีย์  ๓. ธรรมเจดีย์   ๔. อุทเทสิกเจดีย์

๑๔๓.    ถาม      อุปสมบทกรรมมีกี่อย่าง  อะไรบ้าง..?

            ตอบ      มี  ๓  อย่าง  คือ  ๑. เอหิภิกขุอุปสัมปทา   ๒. ติสรณคมนูปสัมปทา  ๓. ญัตติจตุตถกรรม

๑๔๔.    ถาม      อภิญญาเทสิตธรรม  คืออะไรบ้าง..?

            ตอบ      คือ สติปัฏฐาน ๔  สัมมัปปธาน ๔  อิทธิบาท ๔  อินทรีย์ ๕  พละ ๕  โพชฌงค์  ๗  มรรค ๘

๑๔๕.    ถาม      เสด็จปรินิพพานที่เมืองไหน  ประชวรพระโรคอะไร  เก็บไว้นานเท่าไร  จึงถวายพระเพลิง..?

            ตอบ      ที่เมืองกุสินารา  ประชวรด้วยโรคลงพระโลหิต  เก็บพระศพไว้  ๘  วันจึงถวายพระเพลิง

๑๔๖.    ถาม      เมื่อพระองค์ปรินิพพานแล้ว  ใครเป็นผู้จัดการพุทธสรีระ  จัดตามแบบไหน..?

            ตอบ      พวกมัลลกษัตริย์  จัดตามแบบพระบรมศพของพระเจ้าจักรพรรดิ

๑๔๗.    ถาม      โทณพราหมณ์ได้กล่าวสุนทรพจน์ในวันแจกพระสารีริกธาตุ  ใจความย่อพอถือเป็นคติว่าอย่างไร..?

            ถาม      ก. แถลงว่า  พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญขันติธรรม และตำหนิในการทำสงครามกัน

                        ข. ชวนให้สามัคคีร่วมใจกัน และแบ่งส่วนพระสารีริกธาตุให้นำไปประดิษฐานในนานาประเทศ

๑๔๘.    ถาม      ในพรรษาแรกพระพุทธองค์ทรงตรัสสอนธรรมเทศนาชื่ออะไรบ้าง.?

            ตอบ      ๑. ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร  ๒. อนัตตลักขณสูตร   ๓. อนุปุพพิกถา    ๔. อริยสัจ ๔    ๕. ปกิณณกเทศนา

๑๔๙.    ถาม      ระบบการปกครองประเทศชาติของพระพุทธเจ้า  เป็นอย่างไร…?

            ตอบ      ปกครองโดยสามัคคีธรรม

๑๕๐.     ถาม      ธรรมอะไรบ้าง  ที่เรียกว่าอริยธรรม..?

            ตอบ      ศีล  สมาธิ   ปัญญา  และวิมุตติ  เรียกว่า  อริยธรรม

๑๕๑.     ถาม      วัดแรกในพระพุทธศาสนาชื่ออะไร  ตั้งอยู่ที่ไหนใครเป็นผู้ถวาย..?

            ตอบ      ชื่อวัดเวฬุวัน  ตั้งอยู่ที่อุทยานเวฬุวันใกล้กรุงราชคฤห์ พระเจ้าพิมพิสารถวาย

๑๕๒.    ถาม      ปาวาลเจดีย์  มกุฏพันธนเจดีย์  และอานันทเจดีย์เกี่ยวของกับพระศาสดาอย่างไร..?

            ตอบ      ปาวาลเจดีย์  เป็นที่ปลงพระชนมายุสังขาร  มกุฏพันธนเจดีย์  เป็นที่ถวายพระเพลิงพุทธสรีระ  อานันทเจดีย์ 

                        เป็นที่แสดงมหาปเทส  ๔

๑๕๓.    ถาม      ใครเป็นปฐมสาวกและปัจฉิมสาวก…?

            ตอบ      พระอัญญาโกณฑัญญะ  เป็นปฐมสาวก  พระสุภัททะ(ปริพาชก)  เป็นปัจฉิมสาวก

๑๕๔.    ถาม      ก่อนที่พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลก  ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอะไร..?

            ตอบ      ศาสนาพราหมณ์

๑๕๕.    ถาม      อนุปุพพีกถาคืออะไรบ้าง  ทรงแสดงแก่ใคร  ที่ไหน  เป็นครั้งแรก..?

            ตอบ      คือ ทาน  ศีล  สวรรค์  กามาทีนพ และเนกขัมมานิสงส์  ทรงแสดงแก่ยสกุลบุตร ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน  เป็นครั้งแรก

๑๕๖.    ถาม      ทรงแสดงอนุปุพพิกถา  แก่คนผู้ที่พร้อมด้วยองค์อะไรบ้าง ..?

            ตอบ      พร้อมด้วยองค์  ๓  คือ   ๑. เป็นมนุษย์          ๒. เป็นคฤหัสถ์   ๓. มีอุปนิสัยแก่กล้าควรบรรลุโลกุตตรธรรม

๑๕๗.    ถาม      ปฐมเทศนา  ปัจฉิมเทศนา  ได้แก่เทศนาอะไร…?

            ตอบ      ปฐมเทศนาได้แก่  ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร  ปัจฉิมเทศนา ได้แก่อัปปมาทธรรม

๑๕๘.    ถาม      การทำสังคายนา  ให้เกิดประโยชน์แก่พระศาสนาอย่างไร…?

            ตอบ      ให้เกิดประโยชน์ดังนี้  ๑. กำจัดเสี้ยนหนามของพระศาสนาให้สูญสิ้นไป  ๒. ได้จัดระเบียบวางรูปการศาสนาให้เป็นไปตามธรรมวินัย     ๓. สืบอายุพระศาสนาให้ดำรงอยู่ได้นาน.

ดาวน์โหลดสื่อการสอน

เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....