๑. ความเห็นว่า บุญบาปไม่มีจริง สิ่งที่ทำลงไปไม่ว่าดีหรือชั่วไม่มีผลอะไรตอบสนอง ทำแล้วก็แล้วไป สมมติว่าคนทั้งโลกมีความเห็นเช่นนี้จะเกิดอะไรขึ้น ดีหรือไม่ดี ขอให้แสดงความคิดเห็น ?
๒. ความเห็นว่า คนไม่มี สัตว์ไม่มี มีแต่การประชุมแห่งธาตุทั้ง ๔ เมื่อธาตุทั้ง ๔ แยกกันแล้วก็เป็นอันสิ้นสุด บาปบุญไม่มี ทานและการบูชายัญเป็นบัญญัติของคนโง่ ที่สุดของชีวิตก็คือเถ้าถ่าน ไม่มีอะไรเหลืออยู่ ตายแล้วสูญหมด ปัจจุบัน มีคนคิดอย่างนี้อยู่มาก เป็นผลดีหรือผลร้ายต่อสังคม อธิบาย ?
๓. ความเห็นว่าการทรมานกายให้ลำบากด้วยวิธีต่างๆ เป็นทางหลุดพ้น ลัทธินี้เน้นความเข้มงวดต่างๆ เช่น ถือว่าการไม่เบียดเบียนอย่างยิ่งยวดถึงกับเอาผ้าปิดปากปิดจมูกเกรงว่าเวลาหายใจจะสูดจุลินทรียสัตว์เข้าไปโดยไม่เจตนา ประพฤติตนเป็นชีเปลือย เชื่อว่าการอดข้าวจนสิ้นชีพจะทำให้พ้นทุกข์ นักเรียนมีความเห็นอย่างไร กับทรรศนะข้อนี้
๔. ทรรศนะทั้ง ๓ ข้อที่กล่าวแล้วนี้ ยกมาจากทรรศนะของครูทั้ง ๖ ที่คนนับถือมากในสมัยพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงเห็นว่าคำสอนเหล่านี้เป็นภัยต่อสังคม พระพุทธศาสนามีทางออกอย่างไร
๕. ศรัทธา แปลว่า ความเชื่อ ศรัทธาในพระพุทธศาสนานั้น เป็นเช่นไร พระพุทธศาสนาสอนให้ศรัทธาในสิ่งไหน ?
๖. ปัญญา แปลว่า รู้ทั่วถึง หมายความว่า ความรู้ในเรื่องใดถ้ารู้ไม่ทั่วถึง ไม่ทะลุปรุโปร่ง ไม่รอบด้าน ไม่นับเป็นปัญญาที่แท้ ความรู้มีอยู่กี่ประเภทอะไรบ้าง พระพุทธศาสนาเน้นความรู้ประเภทไหน เพราะอะไร