ข้อสอบธรรมะชิงทุนการศึกษา

ข้อสอบธรรมะชิงทุนการศึกษา

ระดับชั้นประถมศึกษาตอนปลาย

งาน  ฉลองกองทุนเพื่อพระพุทธศาสนา

ณ บ้าน……………..

วันจันทร์  ที่  ๑  พฤศจิกายน  พ.ศ. ๒๕๔๗

 

คำชี้แจง

            ๑.   ข้อสอบมี  50   ข้อ ๆ ละ  ๑  คะแนน  รวม   ๕๐  คะแนน

            ๒.  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว โดยทำเครื่องหมายกากบาทในกระดาษคำตอบ

            ๓.   ห้ามเขียนข้อความใดๆ ลงในข้อสอบ เมื่อตอบเสร็จแล้วให้คืนข้อสอบด้วย

            ๔.   ให้เวลา   ๑  ชั่วโมง  ๓๐  นาที

๑.  พระธรรมเทศนากัณฑ์แรก มีชื่อว่าอะไร

            ก.  อาทิตตปริยายสูตร                              

            ข.  เวทนาปริคคหสูตร

            ค.  อนัตตลักขณสูตร

            ง.  ธรรมจักกัปปวัตนสูตร

๒.  สามเณรองค์แรกในพระพุทธศาสนา  มีชื่อว่าอะไร

            ก.   นันทะ

            ข.   ราหุล

            ค.   สังกิจจ

            ง.   นิโครธ

๓.  พระพุทธเจ้าทรงประสูติ ในวันใด

            ก.  วันขึ้น  ๑๕  ค่ำ  เดือน ๕

            ข.  วันขึ้น  ๑๕  ค่ำ  เดือน  ๖

            ค.  วันขึ้น  ๑๕  ค่ำ  เดือน ๗

            ง.  วันขึ้น  ๑๕  ค่ำ  เดือน ๘

๔.  เทวทูต  ๔  ที่ปรากฏแก่เจ้าชายสิทธัตถะ  ได้แก่

            ก.   คนแก่  คนเจ็บ  คนตาย  สมณะ

            ข.   คนเกิด  คนป่วย  คนพิการ คนตาย

            ค.   คนจน  คนขอทาน  คนพิการ  คนเร่รอน

            ง.   พระภิกษุ  สามเณร  แม่ชี  พราหมณ์

๕.  พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา แก่ใคร

            ก.  พระนางยโสธรา

            ข.  พระเจ้าสุทโธทนะ

            ค.  พระภควัคคีย์

            ง.  พระปัญจวัคคีย์

๖.  วัดแรกในพระพุทธศาสนา  คือวัดใด

            ก.  วัดเชตะวัน

            ข.  วัดเวฬุวัน

            ค.  วัดอัมพวัน

            ง.   วัดลัฏฐิวัน

๗.  เจ้าชายสิทธัตถะทรงเสด็จออกผนวช ด้วยวิธีใด

            ก.   พระพรหมเป็นผู้บวชให้

            ข.   พระอินทร์เป็นผู้บวชให้

            ค.   มีพระสงฆ์เป็นผู้บวชให้

            ง.   ทรงอธิษฐานเพศเป็นบรรพชิตเอง

๘.  ใครคือพระอนุชา ต่างพระมารดาของพระพุทธเจ้า

            ก.  อานนท์

            ข.  เทวทัต

            ค.  นันทะ

            ง.  โกณฑัญญะ

๙.  พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้  เมื่อทรงมีพระชนมายุกี่พรรษา

            ก.   ๓๐  พรรษา

            ข.   ๓๕  พรรษา

            ค.   ๔๐  พรรษา

            ง.   ๔๕  พรรษา

๑๐.  พระพุทธเจ้าทรงปรินิพพานในวันใด

            ก.  วันจันทร์

            ข.  วันอังคาร

            ค.  วันพฤหัสบดี

            ง.  วันศุกร์

๑๑.  ข้อใด  มิใช่  สถานที่สังเวชนียสถาน

            ก.  สถานที่ประสูติ

            ข.  สถานที่ออกผนวช

            ค.  สถานที่ตรัสรู้

            ง.  สถานที่แสดงธรรม

๑๒.  พระโอวาทครั้งสุดท้าย ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง  เกี่ยวกับเรื่องอะไร

            ก.  ความสามัคคี

            ข.  ความกตัญญูกตเวที

            ค.  ความไม่ประมาท

            ง.  ความขยันหมั่นเพียร

๑๓.   ใครคือ สาวกองค์สุดท้ายที่พระพุทธเจ้าทรงบวชให้

            ก.  พระอัญญาโกณฑัญญะ

            ค.  พระอานนท์

            ค.  พระมหากัสสปะ

            ง.  พระสุภัททะ

๑๔.  การปลงพระชนมายุสังขารของพระพุทธเจ้า  หมายความว่าอย่างไร

            ก.   การกำหนดวันจะออกผนวช

ข.   การกำหนดวันจะแสดงธรรม

            ค.   การกำหนดวันจะตรัสรู้

            ง.   การกำหนดวันจะปรินิพพาน

๑๕.  พระพุทธเจ้าปรินิพพาน  เมื่อทรงมีพระชนมายุกี่พรรษา

            ก.   ๗๐   พรรษา

            ข.   ๘๐   พรรษา

            ค.   ๙๐    พรรษา

            ง.   ๙๕   พรรษา

๑๖.  วันใด  ที่มีพระรัตนตรัยครบบริบูรณ์

            ก.  วันมาฆบูชา

            ข.  วันวิสาขาบูชา

            ค.  วันอาสาฬหบูชา

            ง.   วันเข้าพรรษา

๑๗.  วันพระธรรม  ได้แก่วันใด

            ก.  วันมาฆบูชา

            ข.  วันอัฎฐมีบูชา

            ค.  วันวิสาขบูชา

            ง.  วันอาสาฬหบูชา

๑๘.  เหตุการณ์ใด ไม่เกิดขึ้นในวันจาตุรงคสันนิบาต

            ก.   พระอรหันต์ ๑,๒๕๐ รูปมาชุมนุมกัน

            ข.   พระศาสดาทรงแสดงพระโอวาทปาฏิโมกข์

            ค.  เป็นวันเพ็ญพระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์

            ง.   มีพระสงฆ์สาวกเกิดขึ้นครั้งแรกในโลก

๑๙.  ในหนึ่งเดือน  มีวันธัมมัสสวนะ  กี่วัน

            ก.   ๓  วัน

            ข.   ๔  วัน

            ค.   ๕  วัน

            ง.   ๖   วัน

๒๐.   วันอัฎฐมีบูชา  ตรงกับวันใด

            ก.  วันแรม  ๘  ค่ำ  เดือน ๖

            ข.  วันแรม  ๘  ค่ำ เดือน ๗

            ค.  วันแรม  ๘  ค่ำ เดือน ๘

            ง.  วันแรม   ๘  ค่ำ เดือน ๙

๒๑.  การถวายดอกไม้  เป็นเครื่องหมายบูชาอะไร

            ก.  พระพุทธเจ้า

            ข.  พระสงฆ์

            ค.  พระธรรมวินัย

            ง.  พระคุณของพระพุทธเจ้า

๒๒.  เทียน  ๒  เล่ม  ที่เราจัดไว้หน้าโต๊ะหมู่ เป็นเครื่องหมายอะไร

            ก.  พระธรรมและพระวินัย

            ข.  พระพุทธและพระสงฆ์

            ค.  พระธรรมและพระสงฆ์

            ง.  พระพุทธและพระธรรม

๒๓.  คำว่า   “อภิวาท”   หมายถึงข้อใด

            ก.   การไหว้

            ข.  การกราบ

            ค.  การประนมมือ

            ง.  การน้อมศรีษะ

๒๔.  คำว่า  “มะยัง  ภันเต  ติสะระเณนะ  สหะ ……..  ฯลฯ”  หมายถึงข้อใด

            ก.  คำอาราธนาธรรม

            ข.  คำอาราธนาศีล

            ค.  คำอาราธนาพระปริตร

            ง.  คำลาข้าวพระพุทธ

๒๕.  การนิมนต์พระสงฆ์ไปในงานมงคล  นิยมนิมนต์กี่รูป

            ก.   ๔   รูป        

            ข.   ๖   รูป

            ค.   ๘   รูป

            ง.    ๙   รูป

๒๖.  วันออกพรรษาปีนี้  ตรงกับวันใด

            ก.   วันขึ้น  ๑๕  ค่ำ  เดือน  ๙

            ข.   วันขึ้น  ๑๕  ค่ำ  เดือน  ๑๐

            ค.   วันขึ้น  ๑๕  ค่ำ  เดือน  ๑๑

            ง.   วันขึ้น  ๑๕  ค่ำ  เดือน  ๑๒

๒๗.  เทศกาลการทอดกฐิน  เริ่มต้นเมื่อไร

            ก.   วันแรม  ๑  ค่ำ  เดือน  ๘

            ข.   วันแรม  ๑  ค่ำ  เดือน  ๙

            ค.   วันแรม  ๑  ค่ำ  เดือน  ๑๐

            ง.   วันแรม  ๑  ค่ำ   เดือน  ๑๑

๒๘.   สามเณรรักษาศีลกี่ข้อ

            ก.   ๕  ข้อ

            ข.   ๑๐  ข้อ

            ค.   ๒๒๗  ข้อ

            ง.   ๓๑๑   ข้อ

๒๙.   การไหว้พระสงฆ์  หัวแม่มือจรดที่ใด

            ก.   ปลายคาง

            ข.   ปลายจมูก

            ค.   ระหว่างคิ้วทั้ง  ๒

            ง.    หน้าผาก

๓๐.   วันใด  ไม่มีการเวียนเทียนที่วัด

            ก.   วันเข้าพรรษา

            ข.   วันอาสาฬหบูชา

            ค.   วันมาฆบูชา

            ง.   วันอัฎฐมีบูชา

๓๑.   เบญจศีล  มีกี่ข้อ

            ก.   ๓  ข้อ

            ข.   ๕  ข้อ

            ค.   ๗  ข้อ

            ง.    ๙   ข้อ

๓๒.   องค์ประกอบสำคัญของพระพุทธศาสนาได้แก่อะไร

            ก.    พระรัตนตรัย

            ค.   ไตรสิกขา

            ค.   ไตรลักษณ์

            ง.    อริยสัจ ๔

๓๓.   การสำรวมกาย วาจา ใจ ให้เรียบร้อย  เรียกว่าอะไร

            ก.   ปัญญา

            ข.   สมาธิ

            ค.   ศีล

            ง.   นิพพาน

๓๔.   ศีลข้อว่า  “กาเมสุ สุมิจฉาจารา  เวรมณี”  มีคำแปลว่าอย่างไร

            ก.   เว้นจากการฆ่าสัตว์

            ข.   เว้นจากการลักทรัพย์

            ค.   เว้นจากการประพฤติผิดในกาม

            ง.   เว้นจากการพูดโกหก

๓๕.   คำว่า  กายสุจริต  ตรงกับข้อใด

            ก.   ไม่ฆ่าสัตว์  ไม่พูดโกหก  ไม่ลักทรัพย์

            ข.   ไม่ฆ่าสัตว์  ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม

            ค.   ไม่ฆ่าสัตว์  ไม่อยากได้ของผู้อื่น  ไม่คิดร้ายต่อผู้อื่น

            ง.   ไม่อยากได้ของผู้อื่น ไม่คิดร้ายต่อผู้อื่น มีความเห็นถูกต้อง

๓๖.   ข้อใด ไม่จัดอยู่ในบุญกิริยาวัตถุ คือ หลักแห่งการทำบุญ

            ก.   การบริจาค

            ข.   การรักษาศีล

            ค.   การนั่งสมาธิ

            ง.   การออกบวช

๓๗.   ข้อใด  ไม่จัดอยู่ในหลักพรหมวิหารธรรม

            ก.   เมตตา

            ข.   จาคะ

            ค.   มุทิตา

            ง.    อุเบกขา

๓๘.   คำว่า  ขันติ  แปลว่าอย่างไร

            ก.   การเสียสละ

            ข.   การพูดความจริง

            ค.   การข่มใจ

            ง.    การอดทน อดกลั้น

๓๙.   คำว่า  มรรค  ในอริยสัจ ๔  หมายความว่าอย่างไร

            ก.   ความทุกข์ในชีวิต

            ข.   เหตุของการเกิดทุกข์

            ค.   หนทางแห่งการดับทุกข์

            ง.   การหลุดพ้นจากความทุกข์

๔๐.   ข้อใด  สัมพันธ์ กับมโนทุจริต

            ก.    การฆ่าสัตว์

            ข.    การลักทรัพย์

            ค.    การประพฤติผิดในกาม

            ง.    การคิดร้ายต่อผู้อื่น

๔๑.   กุศลมูล  หมายความว่าอย่างไร

            ก.   รากเหง้าของความชั่ว

            ข.   รากเหง้าของความดี

            ค.   รากเหง้าของกิเลส

            ง.    รากเหง้าของความทุกข์

๔๒.    ปาณาติปาตา  เวรมณี   ควรปฏิบัติคู่ไปกับธรรมข้อใด

            ก.   สติ

            ข.   สัจจะ

            ค.   เมตตา

            ง.   กรุณา

๔๓.   สิ่งที่ทำใจให้เศร้าหมอง   เรียกว่าอะไร

            ก.   ทุกข์

            ข.   อกุศล

            ค.   กิเลส

            ง.   กรรม

๔๔.   คนที่ทำงานจนประสบความสำเร็จ  เพราะมีหลักธรรมข้อใด

            ก.   ฆราวาสธรรม ๔

            ข.   สังคหวัตถุ  ๔

            ค.   อิทธิบาท  ๔

            ง.   พรหมวิหาร  ๔

๔๕.   คนดี  ในทางพระพุทธศาสนาต้องมีคุณสมบัติตามข้อใด

            ก.   ประพฤติชอบทั้งกาย วาจา ใจ

            ข.   เคยผ่านการบวชเรียนมาแล้ว

            ค.   บริจาคทานอยู่เป็นประจำ

            ง.   มีความกตัญญูรู้คุณ

๔๖.   อริยสัจ  ๔  เป็นหลักธรรมเกี่ยวกับเรื่องใด

            ก.   ป้องกันทั้งหลายไม่ใช้เกิดทุกข์

            ข.   ช่วยคนทั้งหลายให้ต่อสู้กับความทุกข์

            ค.   ช่วยคนทั้งหลายให้อดทนต่อความทุกข์

            ง.   ช่วยคนทั้งหลายให้หลุดพ้นจากความทุกข์

๔๗.   พระปัญญาคุณ  พระบริสุทธิคุณ  พระมหากรุณาคุณ  ตรงกับข้อใด

            ก.   พระพุทธคุณ            

            ข.   พระธรรมคุณ

            ค.   พระสังฆคุณ

            ง.    พระอนุพุทธคุณ

๔๘.   คำว่า  “อบายมุข”  มีความหมายตรังกับข้อใด

            ก.   ทางแห่งการทำความดี

            ข.   ทางของความฉิบหาย

            ค.   ทางแห่งการเจริญ

            ง.    ทางแห่งการทำดี

๔๙.   คำว่า  “วิริเยน  ทุกฺขมจฺเจติ”  แปลว่าอย่างไร

            ก.   ปัญญาประเสริฐกว่าทรัพย์

            ข.   เมตตาธรรมค้ำจุนโลก

            ค.   คนจะได้เกียรติเพราะสัจจะ

            ง.    คนละล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร

๕๐.   คำว่า  “กรรม”  หมายความว่าอย่างไร

            ก.   การกระทำที่ประกอบด้วยเจตนา

            ข.   ผลของการกระทำในชาตินี้

            ค.   ความชั่วที่เกิดจากกระทำ

            ง.   สิ่งที่กระทำไว้ตั้งแต่อดีตชาติ

 

 

0000000000

ขอให้โชคดีทุกคน