ปัญหาความรู้นวกภูมิ
วิชา พุทธประวัติ
สอบในสำนัก……………………….
สอบ วันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
———————————–
๑. ในสมัยก่อนพุทธกาล แบ่งคนออกเป็นกี่จำพวก ? เรียกว่าอย่างไร ? มีหน้าที่ต่างกันอย่างไร ?
๒. ใครเป็นผู้ทำนายพระสิทธัตถะว่า ถ้าเป็นฆราวาสจักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ถ้าออกผนวชจักเป็นศาสดาเอกในโลก เขารู้ได้อย่างไร จึงทำนายเช่นนั้น ?
๓. พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมอะไร ที่ไหน ในดิถี เดือน และพุทธศักราชเท่าไร ?
๔. เมื่อพระองค์ตรัสรู้แล้ว ทรงทำในพระหฤทัยอย่างไร จึงได้ตกลงว่าจะประกาศพระศาสนา ?
๕. พระองค์เทศนาสั่งสอนแก่ใครก่อน และใครได้เห็นธรรมก่อนและเห็นอย่างไร ?
๖. ปฐมเทศนาชื่อว่าอะไร ทรงแสดงเมื่อไร ที่ไหน ?
๗. หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ใครเป็นศาสดาของพุทธบริษัท และใครตั้งให้ ?
๘. พระพุทธศาสนาที่เจริญหรือเสื่อม เพราะบุคคลประเภทไหน ประพฤติอย่างไร ?
ศาสนพิธี
๙. การบวชในพระพุทธศาสนา ตั้งแต่ครั้งพุทธกาลจนถึงปัจจุบัน มีกี่วิธี และวิธีนั้น ๆ เรียกว่าอย่างไร ปัจจุบันใช้อยู่กี่วิธี จงอธิบาย ?
๑๐. ให้เขียนคำอาราธนาศีล ๕ อาราธนาพระปริตร อาราธนาธรรม เป็นคำไทยหรือคำบาลีก็ได้ ?
———————————
ให้เวลา ๓ ชั่วโมง
เฉลยปัญหานวกภูมิ
วิชา พุทธประวัติ
สอบ ณ ……………………………………………
วันที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
๑. แบ่งคนออกเป็น ๔ จำพวก เรียกว่า วรรณะ ๔ คือ
กษัตริย์ มีหน้าที่ปกครองรักษาบ้านเมือง
พราหมณ์ มีหน้าที่ฝึกสอน และทำพิธีทางศาสนา
แพศย์ มีหน้าที่ในการทำนา ค้าขาย
ศูทร มีหน้าที่รับจ้าง กรรมกร
แต้ถ้าพวกคนที่มีบิดา มารดาต่างวรรณะกัน มีบุตรออกมา เรียกว่า จัณฑาล จัดเป็นพวกนอกวรรณะ เขาไม่นิยมนับถือ ฯ
๒. อสิตดาบส เขารู้ได้โดยเห็นพระลักษณะต้องตามคัมภีร์มหาปุริสลักษณะพยากรณ์ศาสตร์ ฯ
๓. พระองค์ตรัสรู้อริยสัจ ๔ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ที่ร่มไม้อัสสัตถพฤกษ์ (โพธิ) ที่อุรุเวลาประเทศเสนานิคม ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ในปุรณมีเพ็ญแห่งเดือนวิสาขะ (เดือน ๖) ก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี ฯ
๔. ทรงทำในพระหฤทัยว่า สัตว์โลกมีอินทรีย์ต่าง ๆ กัน พอจะรู้ได้ก็มี พอจะอบรมให้ค่อยรู้ไปก็มี เหมือนดอกบัวต่างชนิด ที่ขึ้นพ้นน้ำพอต้องรัศมีพระอาทิตย์จักบานก็มี น้ำเลี้ยงอยู่จักบานในวันเป็นวันกันไปก็มี ธรรมที่พระองค์ทรงแสดง คือ ปฏิบัติโดยลำดับ คงจะสำเร็จประโยชน์ทันกัน เว้นเสียแต่คนไม่ใช่เวไนยที่เปรียบด้วยดอกบัวเป็นภักษาหารแห่งสัตว์น้ำ ฯ
๕. เทศนาสั่งสอนโปรดภิกษุปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ก่อน พระอัญญาโกณฑัญญะหัวหน้าพวกภิกษุปัญจวัคคีย์ได้ดวงตาเห็นธรรม เห็นว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่ง คือสภาพที่ปัจจัยประชุมแต่งทั้งหลาย ล้วนเป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนทั้งสิ้น มีความเกิดเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดมีความดับเป็นธรรมดา ฯ
๖. ปฐมเทศนาชื่อว่า ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ทรงแสดงเมื่อวันเพ็ญ เดือน ๘ พรรษาแรกที่ตรัสรู้ ทรงแสดงที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี
๗. พระธรรมวินัย ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว ทรงบัญญัติแล้วเป็นศาสดาของเรา และพระพุทธเจ้าเป็นผู้ทรงตั้งให้ ฯ
๘. พุทธบริษัทในพระพุทธศาสนานี้เอง ประพฤติตามพระธรรมวินัยพระพุทธศาสนาก็เจริญ หากประพฤตินอกพระธรรมวินัย พระพุทธศาสนาก็เสื่อม ฯ