มีชายหนุ่ม ๓ คนถูกจำคุกเพราะทำความผิด ศาลตัดสินจำคุกทั้งสามคนๆ ละ ๕ ปี แต่ก่อนแยกเข้าห้องขังเดี่ยว เจ้าหน้าที่ให้นักโทษขออะไรก็ได้คนละอย่างเพื่อใช้เป็นเพื่อนแก้เหงาในคุก คนที่ ๑ ขอหนังสือกฎหมาย คนที่ ๒ ขอพระพุทธรูปและหนังสือธรรมะ คนที่ ๓ ขอบุหรี่ ๒๐ ลัง
๕ ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก เมื่อคุกเปิดออกมาโดยความตั้งใจของเจ้าหน้าที่ ชายคนที่ ๑ ออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสพร้อมกับบอกผู้คุมว่า
“ผมจะไปทำงานด้านกฎหมายครับ ขอบคุณสำหรับตำราที่มอบให้ไปศึกษาจนทะลุปรุโปร่ง ผมจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังในตัวผมอีกแล้วครับ”
ชายคนที่ ๒ ก้าวออกจากห้องขังด้วยความสำรวม และกล่าวอย่างนอบน้อมว่า
“ผมตัดสินใจจะไปบวชพระ ส่วนพระพุทธรูปและหนังสือธรรมะผมมอบให้เรือนจำครับ”
ชายคนที่ ๓ คลานออกมาด้วยใบหน้าที่บูดเบี้ยวอย่างคนหมดแรงใกล้จะตาย แล้วพูดออกมาด้วยเสียงอันแหบพร่าว่า
“ผู้คุม ขอไม้ขีดไฟหน่อย เร็วๆ ด้วย”
ผู้คุมต่างมองหน้ากันด้วยความงงงวย ตกตะลึงในขณะเดียวกันกับสิ่งที่ได้ยิน และปล่อยเสียงก๊ากออกมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
ความเป็นอิสระอยู่ที่ใจ
ปิดความเห็น บน ความเป็นอิสระอยู่ที่ใจ